Date post: | 04-Jan-2016 |
Category: |
Documents |
Upload: | flynn-silva |
View: | 66 times |
Download: | 0 times |
1
พื้��นฐานข้�อมู�ล และสั�ญญาณ(Fundamental of Data and Signals)
พื้��นฐานข้�อมู�ล และสั�ญญาณ(Fundamental of Data and Signals)
บทท�� 4บทท�� 4
2
สั�ญญาณ(Signal ) และข้�อมู�ล(Data)สั�ญญาณ(Signal ) และข้�อมู�ล(Data)
การส่�งข้�อมู�ลต่�างๆในการต่�ดต่�อส่��อส่าร จะต่�องแปลงข้�อมู�ลเป�นส่�ญญาณ โดย
ส่�ญญาณที่"�ใช้�ในระบบส่��อส่ารคื�อกระแส่ไฟฟ(า (Electric) หร�อคืล��นแมู�เหล*กไฟฟ(า
(Electromagnetic Wav) เช้�น คืล��นวิ�ที่ย, คืล��นแส่ง เป�นต่�นตั�วอย่�างข้องส่�ญญาณ เช้�น
การส่นที่นาผ่�านระบบโที่รศั�พที่0 การส่�มูภาษณ0รายงานส่ดจากต่�างประเที่ศั การส่��งพ�มูพ0งาน การดาวิน0โหลดข้�อมู�ลจากอ�นเต่อร0เน*ต่
3
สั�ญญาณ อนาล�อก(Analog ) และดิ จิ ตัอล(Digital)สั�ญญาณ อนาล�อก(Analog ) และดิ จิ ตัอล(Digital)
(Analog)
1 0 0 0 1 0 1 1 1 0 0 0
(Digital)
4
พื้��นฐานข้�อมู�ล และสั�ญญาณ(Fundamental of Data and Signals)
พื้��นฐานข้�อมู�ล และสั�ญญาณ(Fundamental of Data and Signals)ส่�ญญาณอนาล*อกเป�น สั�ญญาณชน ดิคาบ (Periodic) เพราะส่�ญญาณจะแกวิ�งข้34นลง
ส่ล�บก�นไป ร�ปแบบต่�อเน��อง และแน�นอนต่ามูคืวิามูส่�มูพ�นธ์0ก�บเวิลา ด�งน�4นจ3งเก�ดคืาบเวิลา
(Periodic )ส่�ญญาณด�จ�ต่อลเป�น สั�ญญาณชน ดิไมู�มู�คาบ (Nonperiodic) เพราะเป�นส่�ญญาณที่"�
ส่ามูารถเปล"�ยนแปลงได�ต่ลอดเวิลา และไมู�เป�นล�กคืล��น
5
ล�กษณะจะเป�นร�ปคืล��นที่"�มู"ล�กษณะต่�อเน��อง (Continuous Waveforms ) คื�าระด�บส่�ญญาณ
อย��ในช้�วิงระวิ�างคื�าต่7�าส่,ด และคื�าส่�งส่,ดข้องคืล��น โดยคื�าต่7�าส่,ด และส่�งส่,ดจะแที่นหน�วิย
แรงด�น(Voltage ) เช้�น เส่"ยงพ�ดมูน,ษย0 เส่"ยงดนต่ร" หร�อเส่"ยงอ��นๆส่�ญญาณอนาล*อกที่"�พบเห*นได�ที่��วิไป เช้�น การส่นที่นาเพ��อส่��อส่ารก�นผ่�านระบบโที่รศั�พที่0
ส่�ญญาณอนาล*อกย�งถ�กรบกวินได�ง�ายจากส่�ญญาณที่"�ไมู�พ3�งประส่งคื0 เร"ยกกวิ�า
สั�ญญาณรวบกวน(Noise ) ถ�ามู"การการปะปนมูาก�บส่�ญญาณรบกวินก*จะที่7าให�ยากต่�อ
การจ7าแนก หร�อต่�ดส่�ญญาณรบกวินออกได�ถ�าการส่�งไกลๆระด�บส่�ญญาณจะถ�กลดถอนลงได� เพราะฉะน�4นจ3งจ7าเป�นต่�องใช้�อ,ปกรณ0
ที่"�เร"ยกกวิ�า แอมูพื้ล ไฟเออร( (Amplifier ) ช้�วิยเพ��มูก7าล�ง หร�อคืวิามูเข้�มูข้องส่�ญญาณให�
เพ��อจะที่7าให�ส่�งส่�ญญาณได�ไกลออกไปอ"ก
ข้�อมู�ล และสั�ญญาณ อนาล�อก(Analog)ข้�อมู�ล และสั�ญญาณ อนาล�อก(Analog)
6
ข้�อมู�ล และสั�ญญาณ อนาล�อก(Analog)ข้�อมู�ล และสั�ญญาณ อนาล�อก(Analog)
X
Y
Vo
ltag
el
Time
X
Y
Vo
ltag
el
Time
เมู��อเก ดิสั�ญญาณรบกวน
7
ข้�อมู�ล และสั�ญญาณ ดิ จิ ตัอล(Digital)ข้�อมู�ล และสั�ญญาณ ดิ จิ ตัอล(Digital)
X
Y
Vo
ltag
el
Time
X
Y
Vo
lta
ge
l
Time
เมู��อเก ดิสั�ญญาณรบกวน
8
ล�กษณะจะเป�นร�ปแบบข้องระด�บแรงด�นไฟฟ(า ส่�ญญาณจะไมู�ต่�อเน��องก�น เป�นคืล��น
สั��เหล��ย่มู(Square Wave ) ส่�ญญาณจะเป�น 0 ก�บ 1 ข้�อดิ�ค�อ ส่ามูารถส่ร�างส่�ญญาณข้34นได�ด�วิยต่�นที่,นที่"�ต่7�ากวิ�าส่�ญญาณ
อนาล*อก และมู"คืวิามูคืวิามูที่นที่านต่�อส่�ญญาณรบกวินได�ด"กวิ�า ส่ามูารถจ7าแนกข้�อมู�ลก�บส่�ญญาณรบกวินได�ง�ายกวิ�า แบบอนาล*อก
ข้�อเสั�ย่ค�อ ส่�ญญาณจะถ�กลดที่อนลงเมู��อส่�งระยะที่างไกลๆ จ3งจ7าเป�นจะต่�องมู"เคืร��องที่"�ช้�วิยในการปร�บแต่�งส่�ญญาณให�มู"คืวิามูใกล�เคื"ยงก�บส่�ญญาณจากต่�นที่าง โดยเคืร��องประเภที่น"4เร"ยกวิ�า เคร��องทวนสั�ญญาณ (Repeater)
หมูาย่เหตั*ถ�าส่�ญญาณที่"�ส่�งมูาที่�4งแบบอนาล*อก หร�อแบบด�จ�ต่อล ถ�าหากมู"ส่�ญญาณรบกวินที่"�ส่�งมูาก ก*ย�อมูส่�งผ่ลกระที่บต่�อคืวิามูถ�กต่�องข้องข้�อมู�ลได�ที่�4งส่�4น
ข้�อมู�ล และสั�ญญาณ ดิ จิ ตัอล(Digital)ข้�อมู�ล และสั�ญญาณ ดิ จิ ตัอล(Digital)
9
ส่�ญญาณอนาล*อก ประกอบด�วิยพ�4นฐานหล�กอย�� 3 ประการคื�อ
แอมูพื้ล จิ�ดิ , ความูถี่�� , และเฟสั แอมูพื้ล จิ�ดิ (Amplitude )
มู"ล�กษณะร�ปคืล��นส่ล�บข้34นลงส่ล�บก�น หร�อที่"�เร"ยกกวิ�า คืล��นซายน0(Sine Wave ) ปกต่�
คื�าที่"�วิ�ดจะแที่นด�วิยหน�วิยเป�นโวิลต่0(Volt ) โดยวิ�ดจะระด�บคืล��นส่,งส่,ด(High Amplitude ) และ
ต่7�าส่,ด(Low Amplitude ) หร�ออาจจะมู"หน�วิยเป�น แอมูป;(Amp ), หร�อวิ�ต่ต่0(Watt)
สั�ญญาณอนาล�อก(Analog Signals)สั�ญญาณอนาล�อก(Analog Signals)
Vo
lta
ge
l
Time
Am
plitu
de
Vo
ltag
el
High Amplitude
Time
Low Amplitude
10
ความูถี่�� (Frequency)หมูายถ3งอ�ต่ราการข้34นลงข้องคืล��น จ7านวินก"�รอบใน 1 วิ�นาที่" ใช้�แที่นหน�วิยวิ�ดเป�นเฮิ�รต่ซ0(Hert:Hz)
Vo
ltag
el
Time
Frequency1Hz/ 1second
1S 2S
Vo
ltag
elFrequency4Hz/ 1second
Time1S
สั�ญญาณอนาล�อก(Analog Signals)สั�ญญาณอนาล�อก(Analog Signals)
11
เฟสั(Phase)เป�นการเปล"�ยนแปลงข้องส่�ญญาณ วิ�ดจากต่7าแหน�งองศาข้องส่�ญญาณ เมู��อเฟส่มู"
การเปล"�ยนแปลง (Phase Shift) ซ3�งส่ามูารถเปล"�ยนแปลงต่7าแหน�งในล�กษณะเล��อนไป
ข้�างหน�าหร�อวิ�าถอยหล�งก*ได�
Vo
ltag
el
Time
90o
180o
360o
270o
Vo
ltag
el
Time
90o
Vo
ltag
el
Time
180o
สั�ญญาณอนาล�อก(Analog Signals)สั�ญญาณอนาล�อก(Analog Signals)
12
ส่�ญญาณด�จ�ต่อลเป�นส่�ญญาณช้น�ดไมู�มู"คืาบ มู"คื7าที่"�เก"�ยวิข้�อง 2 คื7า คื�อBit Interval :มู"คืวิามูหมูายเด"ยวิก�นก�บคืาบ (Period) โดย Bit Interval คื�อเวิลาที่"�ส่�งข้�อมู�ล 1 บ�ต่Bit Rate :คื�อจ7านวินข้อง Bit Interval ต่�อ วิ�นาที่"มู"หน�วิยวิ�ดเป�นบ�ต่ต่�อวิ�นาที่" (bps)
สั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Signals)สั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Signals)
Amplitude
Time
1 0 1 1 0 0 0 1
1 Second = 8 Bit IntervalsBitrate = 8 bps
. . .1 Second
BitInterval
13
อ�ตัราบ ตั (Bit Rate/Data Rate) คื�อ จ7านวินบ�ต่ที่"�ส่ามูารถส่�งไปได�ภายในหน3�ง
หน�วิยเวิลา มู"หน�วิยเป�นบ�ต่ต่�อวิ�นาที่" (bit per second : bps)
อ�ตัราบอดิ (baud per second) จ7านวินข้องส่�ญญาที่"�ส่ามูารถส่�งได�ต่�อการ
เปล"�ยนส่�ญญาณในหน3�งหน�วิยเวิลา (baud per second)อ�ต่ราบอดจะมู"คื�าเที่�าก�บหร�อน�อยกวิ�า อ�ต่ราบ�ต่ก*ได� ถ�าเปร"ยบเที่"ยบระหวิ�างอ�ต่ราบ�ต่
อ�ต่ราบอด ก�บการเด�นที่างด�วิยรถยนต่0 อ�ต่ราบอดจะเปร"ยบเส่มู�อนรถยนต่0 ส่�วิน
อ�ต่ราบ�ต่จะเปร"ยบเส่มู�อนผ่��โดยส่าร ถ�ารถยนต่0ส่ามูารถบรรที่,กผ่��โดยส่ารได�หลายคืน
การข้นส่�งก*จะได�มูากต่ามูไปด�วิย
หน�วย่ว�ดิความูเร�วในการสั�งข้�อมู�ลหน�วย่ว�ดิความูเร�วในการสั�งข้�อมู�ล
14
การแปลงข้�อมู�ลให�เป/นสั�ญญาณ (Converting Data into Signals)
การแปลงข้�อมู�ลให�เป/นสั�ญญาณ (Converting Data into Signals)
การร�บ-ส่�งข้�อมู�ลในระบบส่��อส่าร จ7าเป�นต่�องแปลงข้�อมู�ลให�เป�น
สั�ญญาณเพ��อส่�งผ่�านส่��อกลาง โดยร�ปแบบการแปลงข้�อมู�ลให�เป�น
ส่�ญญาณมู"อย�� 4 ร�ปแบบ Analog Data to Analog Signal Digital Data to Digital Signal Digital Data to Analog Signal Analog Data to Digital Signal
15
จะประกอบด�วิยคล��นพื้าห( (Carrier) เป�นคืล��นคืวิามูถ"�ส่�ง และส่�งได�ระยะที่างไกล
เมู��อจะที่7าการส่�งก*น7า คล��นพื้าห((Carrier) ผ่มูผ่ส่มูก�บคืล��นส่�ญญาณเส่"ยงต่�นฉบ�บ
เร"ยกวิ�า การมูอดิ�เลตั(Modulate)ร�ปแบบที่"�ง�ายที่"�พบเห*น เช้�น ระบบกระจายเส่"ยง
การแปลงข้�อมู�ลอนาล�อกให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก
(Analog Data to Analog Signal)
การแปลงข้�อมู�ลอนาล�อกให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก
(Analog Data to Analog Signal)
16
การมูอดิ�เลตัทางข้นาดิ (Amplitude Modulation :AM)
การแปลงข้�อมู�ลอนาล�อกให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก
(Analog Data to Analog Signal)
การแปลงข้�อมู�ลอนาล�อกให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก
(Analog Data to Analog Signal)
17
การแปลงข้�อมู�ลอนาล�อกให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก
(Analog Data to Analog Signal)
การแปลงข้�อมู�ลอนาล�อกให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก
(Analog Data to Analog Signal)การมูอดิ�เลตัทางความูถี่�� (Frequency Modulation :FM)
18
การแปลงข้�อมู�ลอนาล�อกให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก
(Analog Data to Analog Signal)
การแปลงข้�อมู�ลอนาล�อกให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก
(Analog Data to Analog Signal)
19
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)มู"เที่คืน�คืวิ�ธ์"เข้�ารห�ส่ส่�ญญาณด�จ�ต่อลหลายวิ�ธ์"ด�วิยก�น ซ3�งแบบ - NRZ L เป�นแบบที่"�
ง�ายที่"�ส่,ด โดยใช้�ระด�บแรงด�นที่"�แต่กต่�างก�นส่องระด�บ ส่�วินส่7าหร�บเคืร�อข้�าย LAN (Ethernet) จะใช้�เที่คืน�คื Manchester และเที่คืน�คื Differential Manchester
20
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)ช้น�ดข้องการแปลงข้�อมู�ลด�จ�ต่อล เป�นส่�ญญาณด�จ�ต่อล มู"ล7าด�บด�งน"4
21
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)ชน ดิข้อง Polar Encoding
22
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal) Non Return to Zero(NRZ) - NRZ L (Nonreturn to zero : Level)
• ถ�าบ�ต่ข้�อมู�ลมู"คื�าเป�น 1 จะแที่นระด�บแรงต่7�า ถ�าบ�ต่มู"คื�าเป�น 0 จะแที่นระด�บแรงด�นส่�ง
- NRZ I (Nonreturn to zero : Inverted) • คื�าระด�บข้องส่�ญญาณจะเปล"�ยนต่รงก�นข้�ามูเมู��อบ�ต่ข้�อมู�ลถ�ดไปมู"คื�าเป�น 1
23
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)Polar Encoding
24
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)ชน ดิข้อง Bipolar
25
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Digital Data to Digital Signal)Bipolar AMI Encoding นอกจากน"4ย�งมู"การเข้�ารห�ส่แบบ
B8 ZS Encoding และ แบบ 3HDBEncodi ng จากร�ปแบบการเข้�ารห�ส่ที่�4งหมูดแบบ NRZ
จ�ดเป�นการเข้�ารห�ส่ที่"�ง�ายที่"�ส่,ด เพราะส่�ญญาณจะข้34นอย��ก�บส่ถานะข้องบ�ต่ ส่�วินแบบ
Manchester และ Differentail Machester จะใช้�การการเข้�ารห�ส่บนเคืร�อ
ข้�าย LAN (Ethernet)
26
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก(Digital Data to Analog Signal)
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก(Digital Data to Analog Signal) การแปลงด�จ�ต่อลเป�นอนาล*อก และแปลงจากอนาล*อกเป�น
ด�จ�ต่อลน�4น เร"ยกวิ�า โมูเดิ�มู(Modulator/Demodulator)
Modul ator การแปลงส่�ญญาณจากแบบด�จ�ต่อลไปเป�นแบบอนาล*อก
Demodulator การแปลงส่�ญญาณจากแบบอนาล*อกไปเป�นแบบด�จ�ต่อล
Modem Modem
27
ข้�อมู�ลด�จ�ต่อล จะต่�องถ�กแปลงเป�นร�ปแบบอนาล*อกก�อนที่"�จะถ�กส่�งออกไปที่าง
ส่ายส่��อส่ารแบบอนาลอก เช้�น ส่ายโที่รศั�พที่0 เที่คืน�คืการแปลงส่�ญญาณน"4ที่7าได�
โดยวิ�ธ์"แปลงส่�ญญาณแบบ AM FM และ PM คืล�ายก�บการแปลงข้�อมู�ลอนาล*อก
เป�นส่�ญญาณอนาล*อก แต่�จะต่�างก�นที่"�ข้�อมู�ลเป�นด�จ�ต่อล โดยจะเร"ยกวิ�า Amplitude ShiftKeying (ASK) Frequency Shift Keying (FSK) PhaseShift Keying (PSK)
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก(Digital Data to Analog Signal)
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก(Digital Data to Analog Signal)
28
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก(Digital Data to Analog Signal)
การแปลงข้�อมู�ลดิ จิ ตัอลให�เป/นสั�ญญาณอนาล�อก(Digital Data to Analog Signal)
29
อ,ปกรณ0ที่"�เร"ยกวิ�า โคเดิค (Coder/Decoder) เป�นอ,ปกรณ0ส่7าหร�บแปลงข้�อมู�ล
อนาล*อกเป�นส่�ญญาณด�จ�ต่อล โดยใช้�เที่คืน�คื Voice Digitization และย�งส่ามูารถแปลง
กล�บมูาเป�นส่�ญญาณอนาล*อกได� เช้�น ซาวิด0การ0ด ส่แกนเนอร0 วิอยซ0เมูล0 และวิ"ด"โอคือน
เฟอเรนซ0
การแปลงข้�อมู�ลอนาล2อกให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Analog Data to Digital Signal)
การแปลงข้�อมู�ลอนาล2อกให�เป/นสั�ญญาณดิ จิ ตัอล(Analog Data to Digital Signal)
30
ส่�ญญาณที่"�เด�นผ่�านส่��อกลาง คื,ณภาพข้องส่�ญญาณอาจถ�กลดที่อนลงไปได�
ที่7าให�ส่�ญญาณเก�ดการส่�ญเส่"ย อาจจะเก�ดจากหลายป>จจ�ย เช้�นคืวิามูต่�านที่าน
ข้องส่ายส่�ง หร�อจากส่��งรบกวินภายนอกคืวิามูส่�ญเส่"ยข้องส่�ญญาณเก�ดข้34นได�จาก 3 ป>จจ�ยคื�อ1. การอ�อนก3าล�งข้องสั�ญญาณ
2. สั�ญญาณคล��นท��ดิ�วย่ความูเร�วท��ตั�างก�น 3. สั�ญญาณรบกวน
ความูสั�ญเสั�ย่ข้องสั�ญญาณจิากการสั�งผ่�านข้�อมู�ล(Transmission Impairment)
ความูสั�ญเสั�ย่ข้องสั�ญญาณจิากการสั�งผ่�านข้�อมู�ล(Transmission Impairment)
31
ส่�ญญาณข้�อมู�ลได�เด�นที่างผ่�านส่��อกลางในระยะไกลๆ ไมู�วิ�าจะเป�นส่ายโคืแอกเช้"ยล ส่ายคื��บ�ดเกล"ยวิ หร�อส่ายไฟเบอร0ออฟต่�ก ย�อมูเก�ดการส่�ญเส่"ยพล�งงาน ที่7าให�คืวิามูเข้�มูส่�ญญาณลดลง
ด�งน�4นจ3งจ7าเป�นต่�องมู"อ,ปกรณ0ช้�วิย เช้�นส่�ญญาณอนาล*อกจะต่�องใช้�อ,ปกรณ0เร"ยกวิ�า แอมูพื้ล ไฟเออร((Amplifier ) เพื้��อ
ข้ย่าย่ก3าล�งสั�งข้องสั�ญญาณส่�ญญาณด�จ�ต่อลต่�องใช้�อ,ปกรณ0ที่"�เร"ยกวิ�า ร�พื้ ตัเตัอร((Repeater ) เพื้��อช�วย่
ซ่�อมูแซ่มูสั�ญญาณให�คงร�ปเดิ มูเหมู�อนก�บตั�นฉบ�บ
Attenuation
1. การอ�อนก3าล�งข้องสั�ญญาณ (Attenuation) 1. การอ�อนก3าล�งข้องสั�ญญาณ (Attenuation)
32
ส่�ญญาณข้�อมู�ลได�เด�นที่างผ่�านส่��อกลางในระยะไกลๆ ไมู�วิ�าจะเป�นส่ายโคืแอกเช้"ยล
ส่ายคื��บ�ดเกล"ยวิ หร�อส่ายไฟเบอร0ออฟต่�ก ย�อมูเก�ดการส่�ญเส่"ยพล�งงาน ที่7าให�คืวิามู
เข้�มูส่�ญญาณลดลงด�งน�4นจ3งจ7าเป�นต่�องมู"อ,ปกรณ0ช้�วิย เช้�นส่�ญญาณอนาล*อกจะต่�องใช้�อ,ปกรณ0เร"ยกวิ�า แอมูพื้ล ไฟเออร((Amplifier )เพื้��อ
ข้ย่าย่ก3าล�งสั�งข้องสั�ญญาณส่�ญญาณด�จ�ต่อลต่�องใช้�อ,ปกรณ0ที่"�เร"ยกวิ�า ร�พื้ ตัเตัอร((Repeater ) เพื้��อช�วย่
ซ่�อมูแซ่มูสั�ญญาณให�คงร�ปเดิ มูเหมู�อนก�บตั�นฉบ�บ
1. การอ�อนก3าล�งข้องสั�ญญาณ (Attenuation)(ตั�อ) 1. การอ�อนก3าล�งข้องสั�ญญาณ (Attenuation)(ตั�อ)
33
ส่�ญญาณแต่�ละคืวิามูถ"�ได�ถ�กลดที่อนลงในอ�ต่ราที่"�แต่กต่�างก�นภายในส่��อกลาง และ
เก�ดการรวิมูก�นข้องส่�ญญาณข้34น ที่7าให�ส่�ญญาณบ�ดเบ"4ยวิเพ"4ยนไปจากเด�มู ส่�งผ่ลให�ฝ่@ายร�บได�ส่�ญญาณแต่�ละคืวิามูถ"�ไมู�พร�อมูก�น โดยส่ามูารถป(องก�นได�โดย
การเพ��มูวิงจร Equalizes เพ��อต่รวิจส่�ญญาณที่"�เข้�ามูาและปร�บคืวิามูถ"�ข้องแต่�ละส่�ญญาณให�มู"คืวิามูเร*วิเที่�าก�น
2. สั�ญญาณเคล��อนท��ดิ�วย่ความูเร�วตั�างก�น (Distortion) 2. สั�ญญาณเคล��อนท��ดิ�วย่ความูเร�วตั�าง
ก�น (Distortion)
34
ส่�ญญารบกวินมู"หลายช้น�ด แต่�หล�กๆมู" 1. เทอร(มู�ลนอย่สั( (Thermal Noise)
2. อ มูพื้�ลสั(นอย่สั( (Impulse Noise) 3. ครอสัทอล(ก (Crosstalk) 4. เอกโค (Echo) 5. จิ ตัเตัอร( (Jitter)
3. สั�ญญาณรบกวน (Noise) 3. สั�ญญาณรบกวน (Noise)
35
เที่อร0มู�ลนอยส่0มู"ช้��อเร"ยกหลายช้��อเช้�น White Noise หร�อ Gaussian Noise เป�น
ส่�ญญาณรบกวินที่"�เก�ดจากคืวิามูร�อน หร�ออ,ณหภ�มู� ซ3�งเป�นส่��งที่"�หล"กยาก เพราะเป�นผ่ลมูาจากการเคืล��อนที่"�ข้องอ�เล*กต่รอนบนข้ดลวิดต่�วิน7า โดยหากมู"อ,ณหภ�มู�ส่�งข้34น ระด�บข้องส่�ญญาณรบกวินก*จะส่�งข้34นต่ามู
ส่�ญญาณไมู�มู"ร�ปแบบที่"�แน�นอน อาจจะป(องก�นได�โดยใช้�อ,ปกรณ0กรองส่�ญญาณ (Filters) ส่7าหร�บส่�ญญาณอนาล*อก หร�ออ,ปกรณ0ปร�บส่�ญญาณ
(Regenerate) ส่7าหร�บส่�ญญาณด�จ�ต่อล
31. เทอร(มู�ลนอย่สั( (Thermal Noise)
31. เทอร(มู�ลนอย่สั( (Thermal Noise)
36
เป�นเหต่,การณ0ที่"�ที่7าให�คืล��นส่�ญญาณโด�ง(Spikes ) ข้34นอย�างผ่�ดปกต่�อย�างรวิดเร*วิ จ�ดเป�นส่�ญญาณแบบไมู�คืงที่"�ต่รวิจส่อบได�ยาก เน��องจากเก�ดข้34นในช้�วิงเวิลาส่�4นๆ เช้�น ฟ(าแลบ , ฟ(าผ่�า หร�อส่ายไฟฟ(าก7าล�งส่�งที่"�อย��ใกล�เคื"ยง ส่�ญญาณอ�มูพ�ลส่0นอยส่0อาจจะที่7าลายหร�อที่7าการลบล�างส่�ญญาณต่�นฉบ�บบางส่�วินหายไป
32 อ มูพื้�ลสั(นอย่สั( (Impulse Noise)
32. อ มูพื้�ลสั(นอย่สั( (Impulse Noise)
37
เก�ดจากการเหน"�ยวิน7าข้องส่นามูแมู�เหล*กไฟฟ(า ที่"�เข้�าไปรบกวินส่�ญญาณข้�อมู�ลที่"�ส่�งไปในส่ายส่�ง เช้�น ส่ายคื��บ�ดเกล"ยวิที่"�ใช้�ก�บส่ายโที่รศั�พที่0 เพราะส่ายเหล�าน"4มู�ดรวิมู
ก�นที่7าให�เก�ดการเหน"�ยวิน7าที่างไฟฟ(า เน��องจากในระบบส่�งส่�ญญาณมู"ส่ายส่�งหลายเส่�น
เช้�นเมู��อเราคื,ยโที่รศั�พที่0 แต่�กล�บได�ย�นเส่"ยงพ�ดคื,ยจากคืนอ��นอย��เบ�4องหล�ง การป(องก�นโดยใช้�ส่ายส่�ญญาณที่"�มู"ฉนวินหร�อช้"ลด0เพ��อป(องก�นส่�ญญาณรบกวิน
33. ครอสัทอล(ก (Crosstalk)
33. ครอสัทอล(ก (Crosstalk)
38
เป�นส่�ญญาณส่ะที่�อนกล�บ (Reflection ) ซ3�งมู"ล�กษณะเด"ยวิก�นก�บการที่"�เราต่ะโกนใน
ห�อง และเส่"ยงที่"�ต่ะโกนส่ะที่�อนกล�บมูาให�เราได�ย�น เมู��อส่�ญญาณที่"�ส่�งไปบนส่ายโคืแอกเช้"ยลส่�ญญาณเด�นไปส่,ดปลายส่ายและเก�ดการส่ะที่�อนกล�บ โหนดข้�างเคื"ยงก*จะน3กวิ�าส่ายส่�งส่�ญญาณในข้ณะน�4นไมู�วิ�าง ที่7าให�ต่�องรอส่�งข้�อมู�ล
ป(องก�นโดยใช้� เทอร(มู เนเตัอร( (Terminator ) ต่�อปลายส่ายเพ��อลดการส่ะที่�อนกล�บ
ข้องส่�ญญาณ
34 เอกโค (Echo) 34. เอกโค (Echo)
39
เป�นเหต่,การณ0ที่"�คืวิามูถ"�ส่�ญญาณมู"การเปล"�ยนแปลงอย�างต่�อเน��อง ก�อให�เก�ดการ
เล��อนเฟส่ไปเป�นคื�าอ��นอย�างต่�อเน��องด�วิย การป(องก�นอาจจะต่�องเล�อกใช้�อ,ปกรณ0
อ�เล*กที่รอน�กส่0ที่"�มู"คื,ณภาพ หร�ออาจจะใช้�อ,ปกรณ0ร"พ�ต่เต่อร0
35 จิ ตัเตัอร( (Jitter) 35. จิ ตัเตัอร( (Jitter)
40
ค3าถี่ามูค3าถี่ามู
1 .จงบอกวิ�าคืวิามูแต่กต่�างระหวิ�างข้�อมู�ลและส่�ญญาณ2. ล�กษณะข้องส่�ญญาณอนาล*อก และด�จ�ต่อล เป�นอย�างไร3. การมูอด�เลต่(Modulate ) เป�นเที่คืน�คืวิ�ธ์"ที่"�มู"ไวิ�เพ��ออะไรจงอธ์�บาย4. ส่�ญญาณพาหะ(Carrier Signal ) คื�ออะไร5. จากบ�ต่ 01001110 จงเข้�ารห�ส่ด�วิยวิ�ธ์"
- NRZ-L - Manchester- NRZ-I - Differential Manchester
6. ส่�ญญาณรบกวินมู"อะไรบ�าง และเก�ดข้34นได�อย�างไร7. อธ์�บายคืวิามูแต่กต่�างระหวิ�างอ�ต่ราบ�ต่ และ อ�ต่ราบอด และอ�ต่ราใดมู"คืวิามู
ส่�มูพ�นธ์0ก�บแบนด0วิ�ดธ์08. คืวิามูแต่กต่�างการมูอด�เลต่แบบ AM ก�บ ASK และ FM ก�บ FSK เป�นอย�างไร
41
The End