หน่�วยที่�� หน่�วยที่��33
หน่�วยที่�� หน่�วยที่��33
ที่ฤษฎี�ที่��เกี่��ยวข้�องกี่�บที่ฤษฎี�ที่��เกี่��ยวข้�องกี่�บพั�ฒน่ากี่ารข้องมน่�ษย�พั�ฒน่ากี่ารข้องมน่�ษย�
1. ที่ฤษฎี� Psychosexual
developmental stage ข้องฟรอยด์�
• ซิ�กมั�นต์� ฟรอยด์� (Sigmund Freud) เป็�นน�กจิ�ต์วิ�ทยาชาวิย�วิ เป็�นผู้��ท��สร�างทฤษฎี�จิ�ต์วิ�เคราะห์� (Psychoanalytic Theory) ซิ$�งเป็�นทฤษฎี�ทางด์�านการพั�ฒนา Psychosexual โด์ยเช(�อวิ)าเพัศห์ร(อกามัารมัณ์� (sex) เป็�นส��งท��มั�อ�ทธิ�พัลต์)อการพั�ฒนาของมัน/ษย� แนวิค�ด์ด์�งกล)าวิเก�ด์จิากการสนใจิศ$กษาและส�งเกต์ผู้��ป็2วิยโรคป็ระสาทด์�วิยการให์�ผู้��ป็2วิยนอนบนเก�าอ�4นอนในอ�ร�ยาบทท��สบายท��ส/ด์ จิากน�4นให์�ผู้��ป็2วิยเล)าเร(�องราวิของต์นเองไป็เร(�อย ๆ ผู้��ร �กษาจิะน��งอย�)ด์�านศ�รษะของผู้��ป็2วิย คอยกระต์/�นให์�ผู้��ป็2วิยได์�พั�ด์เล)าต์)อไป็เร(�อย ๆ เท)าท��จิ7าได์� และคอยบ�นท$กส��งท��ผู้��ป็2วิยเล)าอย)างละเอ�ยด์ โด์ยไมั)มั�การข�ด์จิ�งห์วิะ แสด์งควิามัค�ด์เห์8น ห์ร(อต์7าห์น�ผู้��ป็2วิย
• ฟรอยด์�เช(�อวิ)ามัน/ษย�มั�ส�ญชาต์ญาณ์ต์�ด์ต์�วิมัาแต์)ก7าเน�ด์ พัฤต์�กรรมัของบ/คคลเป็�นผู้ลมัาจิากแรงจิ�งใจิห์ร(อแรงข�บพั(4นฐานท��กระต์/�นให์�บ/คคลมั�พัฤต์�กรรมั ค(อ ส�ญชาต์ญาณ์ทางเพัศ (sexual instinct) 2 ล�กษณ์ะค(อ
• 1. ส�ญชาต์ญาณ์เพั(�อการด์7ารงช�วิ�ต์ (eros = life instinct)
• 2. ส�ญชาต์ญาณ์เพั(�อควิามัต์าย (thanatos = death instinct)
ฟรอยด์�จิ$งแบ)งข�4นต์อนพั�ฒนาการบ/คล�กภาพัของมัน/ษย�ออกเป็�น 5 ข� 4น ด์�งน�4
1. ข้��น่ปากี่ (oral stage) 2. ข้��น่ที่วารหน่�กี่ (anal stage) 3. ข้��น่อว�ยวะเพัศ (phallic or oedipal stage)
4. ข้��น่แฝงหร%อข้��น่พั�กี่ (latency stage) 5. ข้��น่สน่ใจเพัศตรงข้�าม (genital stage)
โครงสร�างบ�คลิ-กี่ภาพั (The personality structure)
1. ตน่เบ%�องต�น่ (id) 2. ตน่ป/จจ�บ�น่ (ego) 3. ตน่ใน่ค�ณธรรม (superego)
ที่ฤษฎี� Psychosocial developmental stage ข้องอ-ร-คส�น่
อธิ�บายถึ$งล�กษณ์ะของการศ$กษาไป็ข�างห์น�า โด์ยเน�นถึ$งส�งคมั วิ�ฒนธิรรมั และส��งแวิด์ล�อมัท��มั�ผู้ลต์)อการพั�ฒนาบ/คล�กภาพัของคน ซิ$�งในแต์)ละข�4นของพั�ฒนาการน�4นจิะมั�วิ�กฤต์�การณ์�ทางส�งคมั (social crisis) เก�ด์ข$4น การท��ไมั)สามัารถึเอาชนะห์ร(อผู้)านวิ�กฤต์�การณ์�ทางส�งคมัในข�4นห์น$�ง ๆ จิะเป็�นป็=ญห์าในการเอาชนะวิ�กฤต์�การณ์�ทางส�งคมัในข�4นต์)อมัา ท7าให์�เก�ด์ควิามับกพัร)องทางส�งคมั (social inadequacy) และเป็�นป็=ญห์าทางจิ�ต์ใจิต์ามัมัาภายห์ล�ง
ที่ฤษฎี�พั�ฒน่ากี่ารที่างบ�คลิ-กี่ภาพัตามแน่วค-ด์ข้อง Erikson แบ�ง
พั�ฒน่ากี่ารด์�าน่จ-ตส�งคมข้องบ�คคลิเป2น่ 8 ข้��น่ ด์�งน่��
• ข้��น่ที่�� 1 ระยะที่ารกี่ (Infancy period) อาย� 0-2 ป3 :ข้��น่ไว�วางใจแลิะไม�ไว�วางใจผู้6�อ%�น่ (Trust vs Mistrust)
• ข้��น่ที่�� 2 ว�ยเร-�มต�น่ (Toddler period) อาย� 2-3 ป3 : ข้��น่ที่��ม�ความเป2น่อ-สระกี่�บความลิะอายแลิะสงส�ย (Autonomy vs Shame and doubt)
• ข้��น่ที่�� 3 ระยะกี่�อน่ไปโรงเร�ยน่ (Preschool period) อาย� 3-6 ป3 : ข้��น่ม�ความค-ด์ร-เร-�มกี่�บความร6�ส7กี่ผู้-ด์ (Initiative vs Guilt)
• ข้��น่ที่�� 4 ระยะเข้�าโรงเร�ยน่ (School period) อาย� 6-12 ป3 : ข้��น่เอากี่ารเอางาน่กี่�บความม�ปมด์�อย (Industry vs Inferiority)
• ข้��น่ที่�� 5 ระยะว�ยร��น่ (Adolescent period) อาย� 12-20 ป3 : ข้��น่กี่ารเข้�าใจอ�ตลิ�กี่ษณะข้องตน่เองกี่�บไม�เข้�าใจตน่เอง (Identity vs role confusion)
• ข้��น่ที่�� 6 ระยะต�น่ข้องว�ยผู้6�ใหญ่� (Early adult period) อาย� 20-40 ป3 : ข้��น่ความใกี่ลิ�ชิ-ด์สน่-ที่สน่มกี่�บความร6�ส7กี่เปลิ�าเปลิ��ยว (Intimacy vs Isolation)
•ข้��น่ที่�� 7 ระยะผู้6�ใหญ่� (Adult period) อาย� 40-60 ป3 : ข้��น่กี่ารอน่�เคราะห�เกี่%�อกี่6ลิกี่�บกี่ารพัะว�าพัะวงแต�ต�วเอง (Generativity vs Self-Absorption)
•ข้��น่ที่�� 8 ระยะว�ยส6งอาย� (Aging period) อาย�ประมาณ 60 ป3ข้7�น่ไป : ข้��น่ความม��น่คงที่างจ-ตใจกี่�บความส-�น่หว�ง (Integrity vs Despair)
ที่ฤษฎี�พั�ฒน่ากี่ารที่างความค-ด์ (Cognitive
Theories) ข้องเพั�ยเจที่�
เพั�ยเจิท�เช(�อวิ)าโด์ยธิรรมัชาต์�แล�วิมัน/ษย�ท/กคนมั�ควิามัพัร�อมัท��จิะมั�ป็ฏิ�ส�มัพั�นธิ�และป็ร�บต์�วิให์�เข�าก�บส��งแวิด์ล�อมัต์�4งแต์)เก�ด์ เพัราะมัน/ษย�ท/กคนห์ล�กเล��ยงไมั)ได์�ท��จิะต์�องมั�ป็ฏิ�ส�มัพั�นธิ�ก�บส��งแวิด์ล�อมัซิ$�งต์�องมั�การป็ร�บต์�วิอย�)ต์ลอด์เวิลา ผู้ลจิากกระบวินการด์�งกล)าวิจิะท7าให์�มัน/ษย�เก�ด์พั�ฒนาการของเชาวิน�ป็=ญญา
ธิรรมัชาต์�ของมัน/ษย�มั�พั(4นฐานต์�ด์ต์�วิต์�4งแต์)ก7าเน�ด์ 2 ชน�ด์
ค(อ• 1. การจิ�ด์และรวิบรวิมั (organization) • 2. การป็ร�บต์�วิ (adaptation)
2.1 การซิ$มัซิาบห์ร(อด์�ด์ซิ$มัป็ระสบการณ์� (assimilation) 2.2 การป็ร�บโครงสร�างทางเชาวิน�ป็=ญญา (accomodation)
องค�ป็ระกอบส7าค�ญท��เสร�มัพั�ฒนาการทางสต์�ป็=ญญา 4
องค�ป็ระกอบค(อ • วิ/ฒ�ภาวิะ (maturation) • ป็ระสบการณ์� (experience)• การถึ)ายทอด์ควิามัร� �ทางส�งคมั (social
transmission)• กระบวินการพั�ฒนาสมัด์/ลย� (equilibration)
Piaget- devepment
ข้��น่พั�ฒน่ากี่ารเชิาว�ป/ญ่ญ่า1 .ข้��น่ใชิ�ประสาที่ส�มผู้�สแลิะกี่ลิ�ามเน่%�อ
(sensorimotor period) อาย� 0- 2 ป3
2. ข้��น่เร-�มม�ความค-ด์ความเข้�าใจ (pre-operational period) อาย� 2-7 ป3
• ข้��น่กี่:าหน่ด์ความค-ด์ไว�ลิ�วงหน่�า (preconceptual thought) อาย� 2-4 ป3
• ข้��น่ค-ด์เอาเอง (intuitive thought) อาย� 4-7 ป3
3 .ข้��น่ใชิ�ความค-ด์อย�างม�เหต�ผู้ลิเชิ-งร6ปธรรม (concrete operational period ) อาย� 7-11 ป3
4. ข้��น่ใชิ�ความค-ด์อย�างม�เหต�ผู้ลิเชิ-งน่ามธรรม (formal operational period) อาย� 11-15 ป3
Piaget’s Model
ที่ฤษฎี�พั�ฒน่ากี่ารที่างจร-ยธรรมข้องโคลิเบอร�กี่
1 .ระด์�บกี่�อน่กี่ฎีเกี่ณฑ์� (Preconventional Level)
2. ระด์�บตามกี่ฎีเกี่ณฑ์� (Conventional Level)
3. ระด์�บเหน่%อกี่ฎีเกี่ณฑ์� (Postconventional Level)
เหต�ผู้ลิเชิ-งจร-ยธรรม 6 ข้��น่ แบ�งออกี่เป2น่ 3 ระด์�บ ตามที่ฤษฎี�พั�ฒน่ากี่ารที่าง
จร-ยธรรมข้องโคลิเบอร�กี่ระด์�บจร-ยธรรม ข้��น่กี่ารใชิ�เหต�ผู้ลิเชิ-งจร-ยธรรม
ระด์�บก)อนมั�จิร�ยธิรรมัอย)างแน)นอนของต์น(Pre conventional Level)
ระด์�บมั�จิร�ยธิรรมัต์ามักฎีเกณ์ฑ์� (Conventional Level)
ระด์�บมั�จิร�ยธิรรมัอย)างมั�วิ�จิารณ์ญาณ์ (Post Conventional Level)
1. ระด์�บจิร�ยธิรรมัของผู้��อ(�น (Heteronomous Morality) (2-7 ป็@)2. ผู้ลป็ระโยชน�ของต์นเป็�นส)วินให์ญ) (Individualism and Instrumental Purpose and Exchange) (7-10 ป็@)3. การยอมัร�บของกล/)มั (Mutujal Interpersonal Expectations Relationships and Interpersonal Conformity) (10-13 ป็@)4. ระเบ�ยบของส�งคมั(Social System and Conscience) (13-16 ป็@)5. ส�ญญาส�งคมั(Social Contract) (16 ป็@ข$4นไป็)6. ค/ณ์ธิรรมัสากล (Universal Ethical Principle) (ผู้��ให์ญ))
ทฤษฎี�วิ/ฒ�ภาวิะของก�เซิลล� (Gesell’s Maturational
theory)
มัโนท�ศน�พั(4นฐานของทฤษฎี�
วิ/ฒ�ภาวิะจิะมั�ผู้ลท7าให์�พั�ฒนาการของมัน/ษย�
ด์7าเน�นต์)อไป็ต์ามัห์ล�กการด์�งน�4
A. การเป็ล��ยนแป็ลงทางด์�านการเจิร�ญเต์�บโต์ การเร�ยนร� � และพั�ฒนาการในแต์)ละช)วิงวิ�ยข$4นอย�)ก�บวิ/ฒ�ภาวิะ
B. วิ/ฒ�ภาวิะเป็�นภาวิะท��เก�ด์ข$4นต์ามัธิรรมัชาต์�จิากการท7างานของระบบป็ระสาท และกล�ามัเน(4อ(Neuromuscular) โด์ยมั�ต์�วิก7าห์นด์ท��ส7าค�ญค(อ ย�นส�ห์ร(อพั�นธิ/กรรมั
C. พั�ฒนาการจิะเก�ด์อย)างมั�แบบแผู้น(Pattern) และข�4นต์อน(Sequences)
D. ท�ศทาง(Direction)
E. อ�ต์รา(Rate)F. พั�ฒนาการท/กด์�านมั�การเต์ร�ยมัพัร�อมัและ
จิ�ด์ระบบระเบ�ยบไวิ�เพั(�อสน�บสน/นซิ$�งก�นและก�น(Reciprocal interweaving)
G. พั�ฒนาการจิะเร��มัจิากส)วินให์ญ)และไมั)เฉพัาะเจิาะจิงไป็ส�)ส)วินท��เล8กและเฉพัาะเจิาะจิงมัากย��งข$4น
H. ควิามัสามัารถึในการร�กษาด์/ลยภาพั(Selfregulation)
I. พั�ฒนาการผู้�ด์ป็กต์�น�4นจิะพับวิ)าเด์8กมั�ล�กษณ์ะควิามัสามัารถึในการกระท7าพัฤต์�กรรมัต์ามัวิ�ยไมั)ได์�เห์มั(อนเด์8กท��วิไป็ มั�การห์ย/ด์ชะง�กของพั�ฒนาการ และข�4นต์อนของพั�ฒนาการผู้�ด์ป็กต์�
การแบ)งพั�ฒนาการ
1.Motor Behavior2.Adaptive Behavior3.Language Behavior4.Personal-Social Behavior
Tonic –neck-reflex
Tonic –neck-reflex
Sucking Reflex
Swallow Reflex
Swallow Reflex
Rooting Reflex
Grasping Reflex
Stepping Reflex
Stepping Reflex
ทฤษฎี�ส�มัพั�นธิภาพัระห์วิ)างบ/คคลของซิ�ลล�แวิน (The Sullivan’s
Interpersonal Theory)
มัโนท�ศน�พั(4นฐานของทฤษฎี�ส�มัพั�นธิภาพัระห์วิ)างบ/คคล
การแบ)งข�4นพั�ฒนาการ1. Infancy
2. Childhood
3. Juvenile era
4. Pre-adolescence
Egocentric
5. Early adolescence
6. Late -adolescence
7. Adulthood
ข้อให�โชิคด์�ใน่ข้อให�โชิคด์�ใน่กี่ารสอบกี่ารสอบ
ข้อให�โชิคด์�ใน่ข้อให�โชิคด์�ใน่กี่ารสอบกี่ารสอบ