WordPress.com · Web viewในเร องความส มพ นธ ระหว...

Post on 01-Jan-2021

3 views 0 download

transcript

แบบทดสอบก่อนเรยีน หลังเรยีน –

หน่วยท่ี 2 เรื่องความต่างศักยไ์ฟฟา้และความต้านทานไฟฟา้

ชัน้มธัยมศึกษาปีท่ี 3 จำานวน 20 ขอ้ คะแนนเต็ม 20 คะแนน เวลา 30 นาที

6

จุดประสงค์การเรยีนรู้1.มคีวามรูค้วามเขา้ใจเกี่ยวกับความต่างศักยไ์ฟฟา้

ความต้านทานไฟฟา้2.มคีวามรูค้วามเขา้ใจเกี่ยวกับความสมัพนัธร์ะหวา่ง

กระแสไฟฟา้ ความต่างศักยไ์ฟฟา้ และความต้านทานไฟฟา้

คำาชีแ้จง ใหนั้กเรยีนเขยีนเครื่องหมาย ทับหน้าตัวอักษรท่ีถูกต้องเพียงอักษรตัวเดียว (ลงในกระดาษคำาตอบท่ีแจกให)้

1.การท่ีประจุไฟฟา้ 1 คลูอมบเ์คล่ือนท่ีจากจุดหนึ่งไปยงัอีกจุดหน่ึง สิน้พลังงานไป 1 จูล หมายถึงอะไรก.ความต่างศักยไ์ฟฟา้ 1 โวลต์ข.ความเรว็ของประจุไฟฟา้ 1 โวลต์ค.ความต้านทานไฟฟา้ 1 โอหม์ง.ความสญูเสยีพลังงานไฟฟา้ 1 จูล

2.ในวงจรไฟฟา้ท่ีมคีวามต่างศักยไ์ฟฟา้ 1 โวลต์ จะสิน้เปลืองพลังงานไฟฟา้ไปกี่จูลก.4 จูล ค. 2 จูลข.3 จูล ง. 1 จูล

7

3.ขอ้ใดเป็นสญัลักษณ์ของเครื่องวดักระแสไฟฟา้ก.dd

ข.

ค.

ง. dd

4.รูปการต่อวงจรไฟฟา้โดยมแีอมมเิตอรแ์ละโวลต์มเิตอรต่์ออยูข่อ้ใดไมถ่กูต้อง

ก.

ข.

ค.

ง.

8

5.ขอ้ใดเป็นแหล่งจา่ยกระแสไฟฟา้ท่ีบอกค่าความต่างศักยไ์ด้ถกูต้องก.ปรอทเซลล์ = 1.5 โวลต์ข.วอลคาอิคเซลล์ = 2 โวลต์ค.ไฟฟา้จากไดนาโมเขา้บา้น = 220 โวลต์ ง.ถกูต้องทัง้ ก, ข และ ค

6.สารใดไมเ่ป็นฉนวนไฟฟา้ก.ไม้ข.แก้วค.แกรไฟต์ง.พลาสติก

7.สารใดเป็นตัวนำาไฟฟา้ท่ีดีท่ีสดุก.เงินข.ทองแดงค.เหล็กง. โครเมยีม

8.กำาหนดใหล้วดต่อไปนี้มขีนาดเบอร ์ 30 มคีวามยาวเท่ากัน ขอ้ใดนำาไฟฟา้ได้น้อยท่ีสดุก. เงินข. ทองแดง

9

ค. อะลมูเินียมง. เหล็ก

9.กำาหนดใหล้วดตัวนำาไฟฟา้ใดยิง่ยาวมากขึ้นจะทำาใหล้วดนี้มีความต้านทานไฟฟา้ มากขึ้น ขอ้ใดกล่าวถกูต้อง ถ้า L = ความยาวของลวดตัวนำา

R = ค่าความต้านทานไฟฟา้ของลวด

ก.R แปรผันโดยตรงกับ Lข.R แปรผกผันกับ Lค.R = Lง.R =

10. ขอ้ใดเป็นสมการท่ีสมัพนัธก์ับกฎของโอหม์น้อยท่ีสดุก.W = P t ยูนิตข.R = โอหม์ค.I = แอมแปร์ง.V = I R โวลต์

11. เครื่องบดไฟฟา้ใชก้ับความต่างศักยไ์ฟฟา้ 220 โวลต์ ขณะใชม้กีระแสไฟฟา้ 1.1 แอมแปร ์ จงหาค่าความต้านทานไฟฟา้เป็นกี่โอหม์ก.180 โอหม์ข.190 โอหม์ค.200 โอหม์

10

ง. 220 โอหม์

12. เครื่องซกัผ้าใชก้ับความต่างศักยไ์ฟฟา้กี่โวลต์ เมื่อขณะใชง้านมกีระแสไฟฟา้ผ่าน 2.4 แอมแปร ์ มคีวามต้านทานไฟฟา้ 15 โอหม์ก.6.2 โวลต์ข.17.4 โวลต์ค.36 โวลต์ง. 45 โวลต์

จากรูป ใหนั้กเรยีนใชต้อบคำาถามขอ้ 13 – 15

13. สตูรกระแสไฟฟา้รวม (I รวม) เป็นขอ้ใด เมื่อมกีระแสไฟฟา้ผ่านท่ี = 0.8 แอมแปร์ก.I รวม = I1 + I2 + I3ข. I รวม = I1 - I2 - I3ค.I รวม = I1 I2 I3ง. I รวม = I1 = I2 = I3

14. สตูรความต้านทานไฟฟา้รวม (R) เป็นขอ้ใดก.R รวม = R1 + R2 + R3

A

V

3

V2

V3I

R R3

R รวม

11

ข.R รวม = R1 - R2 - R3

ค.R รวม = R1 R2 R3

ง. = + +

15. สตูรความต่างศักยไ์ฟฟา้รวม (V รวม) เป็นขอ้ใด ก.V รวม = V1 - V2 - V3

ข.V รวม = V1 + V2 + V3

ค.V รวม = V1 = V2 = V3

ง.V รวม = V1 V2 V3

จากรูปขา้งล่างใหนั้กเรยีนใชต้อบคำาถามขอ้ 16 – 19

16. สตูรกระแสไฟฟา้รวม (I รวม) เป็นขอ้ใดก.I รวม = I1 + I2 + I3ข. I รวม = I1 - I2 - I3ค.I รวม = I1 I2 I3

I I

12

ง. I รวม = I1 = I2 = I317. สตูรความต้านทานไฟฟา้รวม (R) เป็นขอ้ใด

ก. R รวม = R1 + R2 + R3 ข.R รวม = R1 - R2 - R3

ค.R รวม = R1 R2 R3

ง. = + +

18. จากรูปขา้งบน กำาหนดให ้ R1 = 4 โอหม์ R2 = 2 โอหม์ R3 = 1 โอหม์จงคำานวณหาค่าความต้านทานรวม (R รวม) เป็นกี่โอหม์

ก.0.57 โอหม์ข.2 โอหม์ค.4 โอหม์ง. 7 โอหม์

19. จากรูปขา้งบน จงหาค่าความต่างศักยไ์ฟฟา้รวม (V รวม) เป็นกี่โวลต์ก.16 โวลต์ข.8 โวลต์ค.6 โวลต์ง. 3 โวลต์

R ร

วม

13

20. จากรูปใหห้าค่าความต้านทานไฟฟา้รวมระหวา่งจุด AD กำาหนดใหค่้าความต้านทานทกุจุดเป็น 1 โอหม์

เมื่อวงจรไฟฟา้มกีระแสไฟฟา้ไหลไปในวงจรต้องมีความต่างศักยไ์ฟฟา้ระหวา่งจุด 2 จุด โดยความต่างศักย์

หน่วยท่ี 2 ความต่างศักยไ์ฟฟา้และความต้านทานไฟฟา้

แบบฝึกทักษะชุดท่ี 1 ความต่างศักยไ์ฟฟา้

ก.2.5 โอหม์ข.3.0 โอหม์ค.3.5 โอหม์ง. 4.0 โอหม์

สาระสำาคัญ

14

ไฟฟา้จะต้องสมัพนัธก์ับแรงดันไฟฟา้ ถ้ามคีวามต่างศักย์ไฟฟา้ระหวา่งขัว้เซลล์จะเป็นแรงดันไฟฟา้ท่ีดันใหก้ระแสไฟฟา้ไหลจากขัว้บวกผ่านความต้านทานภายนอกไปสูข่ัว้ลบของเซลล์ในวงจรไฟฟา้ ความต่างศักยไ์ฟฟา้มสีญัลักษณ์ V มีหน่วยเป็นโวลต์ เครื่องวดัความต่างศักยไ์ฟฟา้ คือ โวลต์มเิตอรใ์ช ้สญัลักษณ์ คือ สว่นเครื่องวดักระแสไฟฟา้คือ แอมมเิตอรม์ีสญัลักษณ์ คือ กระแสไฟฟา้มสีญัลักษณ์ I มหีน่วยเป็นแอมแปร ์

1.อธบิายความหมายของความต่างศักยไ์ฟฟา้ได้2.บอกความสมัพนัธร์ะหวา่งความต่างศักยไ์ฟฟา้กับ

กระแสไฟฟา้ได้

ใหน้ักเรยีนศึกษาผังมโนทัศน์เรื่องการวดัค่าความต่างศักยไ์ฟฟา้ แล้วตอบคำาถามลงในชอ่งวา่งใหถ้กูต้อง

คำาชีแ้จง

จุดประสงค์

15

ผังมโนทัศน์เรื่อง การวดัค่าความต่างศักยไ์ฟฟา้

+ -

สญัลักษณ์ของ

วธิใีชโ้วลต์มเิตอร์วดัค่าความต่าง

ศักยต้์องต่อวงจรไฟฟา้แบบ

โวลต์มเิตอรท่ี์ดี จะมค่ีา

ความต้านทาน

โวลต์ เป็นหน่วยของความต่างศักย ์ไฟฟา้มาจากชื่อนักวทิยาศาสตร ์โวลตา เคานต์ อะเลส

ความต่างศักยไ์ฟฟา้โดยเครื่อง

รูปแผนภาพการต่อวงจรไฟฟา้

-+

6V

R1

R2

+ -

16

1.โวลต์มเิตอร ์ เป็นเครื่องมอืวดัอะไร ………………………………………………………………………………...……….…………………………………………………………………………………………

2.ความต่างศักยไ์ฟฟา้ระหวา่งจุด 2 จุดในตัวนำาไฟฟา้ คือ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3.เมื่อมคีวามต่างศักยไ์ฟฟา้ระหวา่งขัว้เซลล์จะเป็นแรงดันไฟฟา้เคล่ือนท่ีอยา่งไร………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……..….

4.จงวาดรูปแสดงวงจรไฟฟา้ท่ีมโีวลต์มเิตอรต่์อแบบขนานลงในกรอบขา้งล่าง

คำาถาม ตอน ก

17

5.แรงเคล่ือนไฟฟา้ หมายถึงอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

6.หน่วยของแรงเคล่ือนไฟฟา้คืออะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

7.ค่าของแรงเคล่ือนไฟฟา้มค่ีาเท่ากับพลังงานไฟฟา้ท่ีสญูเสยีในวงจร.............................. ของเซลล์ไฟฟา้และวงจร ..........................................................ของเซลล์ไฟฟา้ รวมกัน

8. เมื่อมกีระแสไฟฟา้ไหลในตัวนำาจะมค่ีาของความต่างศักย์ไฟฟา้เกิดท่ีใดของแหล่งกำาเนิด…………………………………………………………………………………………

9. แหล่งกำาเนิดไฟฟา้ใดมคีวามต่างศักยไ์ฟฟา้เป็น 1.5 โวลต์ และ 24 โวลต์ ตามลำาดับ

18

…………………………………………………………………………………………

10. ในบา้นเรอืนใชพ้ลังงานไฟฟา้มากจงึมไีฟฟา้ท่ีมคีวามต่างศักยส์งูมากกวา่ความต่างศักยข์องถ่านไฟฉายนัน่คือกี่โวลต์

........................................................................................................................................

ขยนัทำาแบบฝึกทักษะกันนะครบั จะได้เก่ง

19

คำาชีแ้จง ใหนั้กเรยีนศึกษาผังมโนทัศน์เรื่อง การวดัค่ากระแสไฟฟา้แล้วตอบคำาถามโดยเติมคำาลงในชอ่งวา่งใหถ้กูต้อง

คำาถาม ตอน ข

3. แอมมเิตอรท่ี์ดีจะมค่ีาความต้านไฟฟา้..........................................2. จงวาดรูป

แผนภาพแสดงการต่อวงจรไฟฟา้โดยมีแอมมเิตอร์

4. การต่อแอมมเิตอร ์ ในวงจรไฟฟา้จะต่อแบบ........................................

1. แอมมเิตอร ์

มีสญัลักษณ์

คือ

.................

................

การวดัค่าของ

กระแสไฟฟา้

โดยแอมมเิตอร์

20

ความต้านทานไฟฟา้ (Resistance) เป็นลักษณะสมบติัของตัวนำาไฟฟา้ท่ียอมใหก้ระแสไหลผ่านได้มากหรอืน้อย โดยลวดตัวนำาไฟฟา้ชนิดใดท่ีมกีระแสไหลผ่านได้มาก แสดงวา่ลวดมคีวามต้านทานไฟฟา้น้อย ลวดตัวนำาไฟฟา้ชนิดใดยอมให้กระแสไฟฟา้ไหลผ่านได้น้อยก็ยอ่มมค่ีาความต้านทานไฟฟา้มาก เปรยีบเทียบกับการไหลของนำ้าในท่อนำ้าสองท่อท่ีวางอยู่สงูเท่ากัน แต่ท่อหน่ึงเป็นท่อขนาดใหญ่ อีกท่อหน่ึงมขีนาดเล็ก ท่อใหญ่นำ้ายอ่มไหลลงมาได้มากยอ่มมคีวามต้านทานนำ้าน้อย ท่อนำ้าเล็กนำ้าไหลได้น้อยยอ่มมคีวามต้านทานมาก

1.อธบิายความหมายของความต้านทานไฟฟา้ได้

หน่วยท่ี 2 ความต่างศักยไ์ฟฟา้และความต้านทานไฟฟา้

จุดประสงค์การเรยีนรู้

สาระสำาคัญ

21

2.บอกความสมัพนัธข์องความต้านทานไฟฟา้กับกระแสไฟฟา้ได้

ตอน ก ใหนั้กเรยีนศึกษาผังมโนทัศน์เรื่อง ความต้านทานไฟฟา้และสมบติัของลวดตัวนำา แล้วตอบคำาถามโดยการจบัคู่ขอ้ความทางซา้ยมอืกับคำาตอบทางขวามอื โดยใหน้ำาตัวอักษรหน้าคำาตอบทางขวามอืมาใสล่งในชอ่งวา่งหน้าขอ้ความทางซา้ยอยา่งถกูต้องสมัพนัธก์ัน

R1 = 2

วงจรแบบขนานหรอืครอ่มขัว้

ความต้านทานไฟฟา้ (R) มหีน่วยเป็นโอหม์ ( ) ใช้สญัลักษณ์ในวงจร

ไฟฟา้ คือ

รูปภาพแสดงวงจรไฟฟา้ท่ีมคีวามสมัพนัธข์อง R V และ I ต่อแบบ

อนุกรม

ความต่างศักยไ์ฟฟา้ (V)

ค่าความต้านทานไฟฟา้ (R) ในลวดตัวนำาไฟฟา้แต่ละชนิด เราสามารถหาได้จากค่าความต่างศักย์ไฟฟา้ (V) และค่ากระแสไฟฟา้ (I ) ท่ีไหลผ่าน ตัว

ต้านทานนี้

ความต่างศักย์

กระแสไฟฟา้

ความต้านทาน

ตัวนำาที่มคีวามต้านทานน้อย ทำาให้กระแสไฟฟา้ไหลผ่าน

ได้มาก เชน่ ทองแดง อะลมูเินียม

เป็นสว่นกลับกับการนำาไฟฟา้ R =

ตัวนำาที่มคีวามต้านทานไฟฟา้

มาก ทำาใหก้ระแสไฟฟา้ไหลผ่านได้น้อย เชน่ เหล็ก

โครเมยีม

กระแส ไฟฟา้

(I ) ความต้านทานไฟฟา้ (R)

R2 = 2

คำาชีแ้จง

22

ก.

ข. ฉนวนไฟฟา้

ค. ยาว 30 cm. มค่ีา R น้อยกวา่

ง. หลอดไฟสวา่ง

จ. มค่ีา R ไมเ่ท่ากัน

ฉ. เงิน

ช. ความต้านทานไฟฟา้

ซ. ตัวนำาไฟฟา้

ซา้ยมอื ขวามอื

6VS

23

1. วตัถท่ีุไมย่อมใหก้ระแสไฟฟา้ไหลผ่าน

2. ลวดเหล็กและลวดทองแดงเบอร ์26 ยาว 50 cm.

3. สญัลักษณ์ของตัวต้านทานไฟฟา้4. ลวดทองแดงยาว 30

cm. และ 60 cm. เบอร ์26

5. วตัถท่ีุยอมใหก้ระแสไฟฟา้ผ่านได้

24

6. ต่อวงจรไฟฟา้โดยถ่านไฟฉายไมแ้ละหลอดไฟ

7. สารท่ีอยูใ่นอุณหภมูติำ่ามากจนไมม่คีวามต้านทาน

8. ลวดนิโครมเบอร ์26 และเบอร ์30 ยาว 30 cm.

9. เป็นสมบติัของตัวนำาไฟฟา้ท่ียอมใหก้ระแสไฟฟา้ผ่าน

10. ลวดท่ีเป็นตัวนำาไฟฟา้ได้ดีท่ีสดุ

ตัง้ใจทำาแบบฝึกทักษะนะคับ

เพื่อนๆ

หน่วยท่ี 2 เรื่องความต่างศักยไ์ฟฟา้และความต้านทานไฟฟา้

สาระสำาคัญ

25

ลวดตัวนำาทกุชนิดจะมคีวามต้านทานไฟฟา้อยูแ่ตกต่างกันไป เน่ืองจากมเีหตปุัจจยัท่ีทำาใหล้วดนำาไฟฟา้ได้มากน้อย คือ ชนิดของลวดสว่นมากเป็นโลหะ ลวดโลหะท่ีมคีวามยาวและมขีนาดพื้นท่ีหน้าตัดเท่ากัน แต่เป็นโลหะต่างชนิดกันลวดเงิน จะมคีวามต้านทานน้อยท่ีสดุ จงึนำาไฟฟา้ได้มากท่ีสดุ ความยาวของลวดตัวนำาถ้าลวดชนิดเดียวกันมขีนาดพื้นท่ีหน้าตัดเท่ากัน เสน้ลวดท่ียาวกวา่จะมคีวามต้านทานเพิม่มากกวา่จะมกีารนำาไฟฟา้ได้น้อยกวา่ ลวดตัวนำาไฟฟา้ชนิดเดียวกันมีขนาดพื้นท่ีหน้าตัดแตกต่างกัน ลวดท่ีมพีื้นท่ีหน้าตัดมากกวา่หรอืมขีนาดใหญ่กวา่จะมค่ีาความต้านทานไฟฟา้น้อยกวา่ จงึนำาไฟฟา้ได้มากกวา่ ในเรื่องอุณหภมูขิองลวดตัวนำาเป็นโลหะบรสิทุธิห์รอืโลหะผสมถ้ามอุีณหภมูสิงูขึ้นจะมคีวามต้านทานเพิม่สงูด้วย แต่ลวดโลหะบรสิทุธิผ์สมจะมคีวามต้านทานเพิม่น้อยกวา่โลหะบรสิทุธิ ์สว่นลวดจากสารกึ่งตัวนำาถ้ามอุีณหภมูิสงูขึ้น ค่าความต้านทานจะน้อยลง

บอกปัจจยัท่ีมผีลต่อความสมัพนัธข์องความต้านทานไฟฟา้ ความต่างศักย ์ ไฟฟา้และกระแสไฟฟา้ได้

คำาชีแ้จง

จุดประสงค์การเรยีนรู้

26

ใหน้ักเรยีนตอบคำาถามลงในชอ่งวา่งของผังมโนทัศน์เรื่อง ปัจจยัท่ีมผีลต่อ ค่าความต้านทานไฟฟา้

เงิน ทองแดงจากรูปลวดใดมคีวามต้านทานไฟฟา้น้อยกวา่................... และลวดใด

ตัวนำาท่ีเป็นโลหะบรสิทุธิ ์ ถ้ามีอุณหภมูเิพิม่ค่าความต้านทานไฟฟา้จะเป็นอยา่งไร..................

ลวดตัวนำาชนิดเดียวกันมคีวามยาวเท่ากันแต่มพีื้นท่ี หน้าตัดต่างกัน ดังรูป

เหล็ก ลวดตัวนำาใดมคีวามต้านทานไฟฟา้มากกวา่..................

ปัจจยัท่ีมผีลต่อ ค่าความต้านทานไฟฟา้

ลวดตัวนำาไฟฟา้ต่างชนิดกัน มขีนาดและความยาวเท่ากันจะนำาไฟฟา้ได้เท่า

ลวดตัวนำาชนิดเดียวกัน มขีนาดพื้นท่ี หน้าตัดเท่ากัน แต่มคีวามยาวต่างกัน ดังรูป อะลมูเินียม

1

2

3

54

(1(2

(1)

(2)

อุณหภมูกิับความต้านทาน

27

ในเรื่องความสมัพนัธร์ะหวา่งกระแสไฟฟา้ ความต่างศักยไ์ฟฟา้และความต้านทานไฟฟา้ โดยนักวทิยาศาสตร์ชาวเยอรมนันีชื่อ จอรจ์ ไซมอน โอหม์ ได้ตัง้กฎของโอหม์ในปี พ.ศ. 2369 กล่าวไวว้า่ เมื่อมอุีณหภมูขิองตัวนำาไฟฟา้มี“ค่าคงท่ี อัตราสว่นระหวา่งความต่างศักยท่ี์ปลายทัง้สองของตัวนำาต่อกระแสไฟฟา้ท่ีไหลผ่านในตัวนำานัน้ ยอ่มมค่ีาคงท่ีเสมอ ค่าคงท่ีน้ีคือ ค่าความต้านทานไฟฟา้ ได้สมการ คือ ”

= R วธิกีารท่ีจะทำาใหจ้ำาความสมัพนัธข์อง V, I และ R อยา่งง่าย เราใช ้ เมื่อต้องการหาค่า V ใหใ้ชน้ิ้ว

ปิด V จะได้ผลลัพธ ์

หรอื V = I R มหีน่วยเป็น โวลต์

ตัวนำาท่ีเป็นสารกึ่งตัวนำามอุีณหภมูสิงูขึ้นค่าความต้านทานจะ..........................ได้แก่

ตัวนำาท่ีเป็นโลหะผสม ถ้ามีอุณหภมูเิพิม่ความต้านทานไฟฟา้ จะเป็นอยา่งไร......................

76

หน่วยท่ี 2 ความต่างศักยไ์ฟฟา้และความต้านทานไฟฟา้

สาระสำาคัญ

28

ถ้าต้องการหาค่า I ใหเ้อาน้ิวปิด I จะได้ผลลัพธ์

หรอื I = แอมแปร์

ถ้าต้องการหาค่า R ใหเ้อาน้ิวปิด R จะได้ผลลัพธ์

หรอื R = โอหม์

1.คำานวณหาค่าของกระแสไฟฟา้ในวงจรไฟฟา้ได้2.คำานวณหาค่าของความต่างศักยไ์ฟฟา้ในวงจรไฟฟา้

ได้3.คำานวณหาค่าของความต้านทานไฟฟา้ในวงจรไฟฟา้

ได้

ใหน้ักเรยีนตอบคำาถามโดยการเติมคำาลงในชอ่งวา่งใหถ้กูต้อง

1.จากสมการ = R เป็นกฎของใคร .......................อธบิายได้วา่............................. ......................................

คำาชีแ้จง

จุดประสงค์การเรยีนรู้

29

......................................................................

...........................2.ชื่อของนายจอรจ์ ไซมอน โอหม์ ได้ถกูนำามาเป็นหน่วยวดั

ค่าอะไร.....................................................................................................................................

3.เมื่อลวดตัวนำาได้รบักระแสไฟฟา้ในปรมิาณน้อย จะมผีลให้ค่าความต่างศักยไ์ฟฟา้เป็นอยา่งไร....................................................................................................................................

4. ก = ความต่างศักยไ์ฟฟา้

จากกราฟแสดงความสมัพนัธข์อง I, V และ R ใหน้ักเรยีนเติมขอ้ความในชอ่งวา่ง

ค =.....................................................

0

ข =.....................................................

ตัง้ใจทำาแบบฝึกทักษะนะครบั เพื่อน ๆ

30

5.เครื่องซกัผ้าไฟฟา้เครื่องหนึ่งใชไ้ฟฟา้ท่ีมค่ีาความต่างศักย ์ 220 โวลต์ ทำาใหม้ ี ค่า กระแสไฟฟา้ผ่านเครื่องซกัผ้า 2 แอมแปร ์ เครื่องซกัผ้าน้ีมคีวามต้านทานไฟฟา้ กี่โอหม์

วธิีทำา............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................

6.หลอดไฟฟา้ชนิดตะเกียบมคีวามต้านทานไฟฟา้ 30 โอหม์ เมื่อเปิดใชม้กีระแสไฟฟา้ 2.2 แอมแปร ์ จะมคีวามต่างศักยไ์ฟฟา้คิดเป็นกี่โวลต์

31

วธิีทำา................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................

7. เครื่องพมิพเ์อกสารไฟฟา้ในขณะใชง้านมคีวามต่างศักย์ไฟฟา้ 200 โวลต์ ความต้านทานไฟฟา้ 4 โอหม์ จงหาค่ากระแสไฟฟา้เป็นกี่แอมแปร์

วธิทีำา

32

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

......................................................................

..............................................................

ความพยายามอยูท่ี่ไหนความสำาเรจ็อยูท่ี่นัน่

33

เราสามารถทำาการต่อตัวต้านทานไฟฟา้ในวงจรไฟฟา้ได้ 3 แบบ คือ แบบอนุกรม แบบขนาน และแบบผสม โดยต่อในอุปกรณ์เครื่องใชไ้ฟฟา้ทกุชนิด ได้แก่ หลอดไฟฟา้ พดัลม ตู้เยน็ โทรทัศน์ ฯลฯ

1.สามารถต่อวงจรไฟฟา้แบบอนุกรม แบบขนาน และแบบผสมได้

2.คำานวณค่าความต้านทานรวมในการต่อวงจรไฟฟา้แบบอนุกรม แบบขนานและแบบผสมได้

ใหน้ักเรยีนศึกษาการต่อตัวต้านทานหรอืต่อหลอดไฟฟา้จากรูปภาพ แล้วเขยีนตอบคำาถามจากผังมโนทัศน์

หน่วยท่ี 2 ความต่างศักยไ์ฟฟา้และความต้านทานไฟฟา้

แบบฝึกทักษะชุดท่ี 5 การต่อตัวต้านไฟฟา้แบบต่าง ๆ

I1 I2 I3

-+

R1 R2 R3

สาระสำาคัญ

คำาชีแ้จง

จุดประสงค์การเรยีนรู้

V

รวม

34

แผนผังวงจรไฟฟา้ ก แสดงการต่อตัวต้านทานแบบอนุกรม หรอืแบบเรยีงกัน

V

I 6V

+

R1

I1

I2I3

R2R3

-

V รวม

V2

I

V1

R1

V3

I 6V

1. ความต้านทานรวมระหวา่ง 2 จุด เท่ากับผลรวมของความต้านทานแต่ละตัวท่ีอยูร่ะหวา่ง

3. ถ้าสายไฟท่ีต่อกับตัวต้านทานตัวใดตัวหนึ่ง.................................จะ

4. ค่าความต่างศักย ์ไฟฟา้รวมระหวา่งจุด 2 จุด เท่ากับผลรวมของความต่างศักย์ของความ

2. I = I1

= I2 = ...กระแสไฟฟา้ท่ีผ่านตัวต้านทานแต่ละตัว จะมค่ีาเท่า

II1 R2R1 I2

5. ค่าความต่างศักยไ์ฟฟา้ระหวา่งขัว้ทัง้สองของความต้านทานไฟฟา้แต่ละตัวจะเท่ากันและเท่ากับความต่างศักยร์วมดังสมการ...................................................................................................

7. กระแสไฟฟา้รวมจะเท่ากับผลบวกของกระแสไฟฟา้ยอ่ย นัน่คือได้สมการ I = .............................................................

8. ความต้านทานรวมระหวา่งขัว้ทัง้สองจะมคี่าน้อยลงและน้อยกวา่ความต้านทานยอ่ย ตัวที่มค่ีาน้อยท่ีสดุเสมอ ได้สมการคือ.........................................................................

6. มกีระแสไฟฟา้ท่ีผ่านในวงจร จะแยกผ่าน.................................................................................โดยถ้าตัวต้านทานไฟฟา้แต่ละตัวไมเ่ท่ากันจะได้ค่ากระแสไฟฟา้แต่ละตัว..........................................

R1I1

V1

I2 R2

II

V2

35

V1

V

V3

แผนผังวงจรไฟฟา้ ข แสดงการต่อตัวต้านทานแบบขนานหรอืแบบครอ่มขัว้

V รวม

V1

V

รวม

36

แผนผังวงจรไฟฟา้ ค. แสดงการต่อตัวต้านทานแบบผสม มีการต่อความต้านทานไฟฟา้ท่ี มกีารต่อแบบอนุกรมและแบบขนานรวมอยูใ่นวงจรไฟฟา้

I2 R2

I แบตเตอรี่

R3

R4

AI1 R

1

+

37

9. จากรูปแผนผังวงจรไฟฟา้ ค กำาหนดให ้ R1 = 5 , R2 = 10

R3 = R4 = 2 จงคำานวณหาค่าความต้านทานรวมระหวา่งจุด XY

วธิคิีด

หาค่าความต้านทานรวมระหวา่ง AB, (RAB) จากการต่อวงจรไฟฟา้แบบขนาน

จากสตูร = + = + = +

=

ความต้านทานรวม (RAB) = = โอหม์ หรอื R5 = โอหม์

จะยุบวงจรไฟฟา้ใหม ่ คือ

X R5 = R3 = 2 R4 = 2 C Y

10

38

หาค่าความต้านทานรวมระหวา่งจุด XY (Rxy) แบบอนุกรม

Rxy = R5 + R3 + R4 = + 2 + 2 ความต้านทานรวม (Rxy) =

โอหม์

10. ใหน้ักเรยีนศึกษาแผนภาพวงจรไฟฟา้จากรูปขา้งล่าง แล้วตอบคำาถามโดยเติม คำาลงในชอ่งวา่ง

39

เมื่อมกีระแสไฟฟา้เคล่ือนในวงจรผ่านแอมมเิตอร ์ ( ) มค่ีา 1 แอมแปร์

10.1 มกีระแสไฟฟา้ไหลผ่านหลอดไฟหลอดท่ี 1 เท่าไร....................................................

10.2 มกีระแสไฟฟา้ไหลผ่านหลอดไฟหลอดท่ีเท่าไรมค่ีาเป็น 1 แอมแปร์.....................................................................................................................................

10.3 จงหาค่าความต่างศักยท่ี์หลอดไฟ 1 เมื่อ V1 = I1 R1 .....................................................................................................................................

10.4 จงหาค่าความต่างศักยท่ี์หลอดไฟ 2 เมื่อ V2 = I2R2 .....................................................................................................................................

10.5 จงหาค่าความต้านทานรวม .....................................................................................................................................

จบแบบฝึกทักษะหน่วยท่ี 2 เรื่องความ ต่างศักย์ไฟฟา้และความ

ต้านทานไฟฟา้แล้วค่ะเพื่อน ๆ

40

ถนอมพร เลาหจรสัแสง. (2555). Designing e-Learning : หลักการออกแบบ และการสรา้งเวบ็เพื่อการเรยีนการสอน. กรุงเทพฯ : อรุณการพมิพ.์ ประชา ศิวเทวกลุ. คู่มอืวทิยาศาสตร ์คำานวณ ม.ต้น. พมิพ์ครัง้ท่ี 1 กรุงเทพฯ : สำานักพมิพเ์ดอะบุคส ์จำากัด, 2551. ประสทิธิ ์พทิยพฒัน์. 2548. การออกแบบระบบไฟฟา้. กรุงเทพฯ : ทีซจี ีพริน้ต้ิง.

บรรณานุกรม

41

เพญ็ศร ี สจัจาพทัิกษ์. คู่มอืวทิยาศาสตร ์ว 305. พมิพค์รัง้ท่ี 1 กรุงเทพฯ : สำานักพมิพ์ ฟสิกิสเ์ซน็เตอร,์ 2550. ศรลัีกษณ์ ผลวฒันะและคณะ. สื่อการเรยีนรูแ้ละเสรมิสรา้งทักษะตามมาตรฐาน การเรยีนรูก้ลุ่มสาระการเรยีนรู้วทิยาศาสตรไ์ฟฟา้. พมิพค์รัง้ท่ี 2 กรุงเทพฯ : สำานักพมิพนิ์ยมวทิยา, 2550. สถาบนัสง่เสรมิการสอนวทิยาศาสตรแ์ละเทคโนโลยี. กระทรวงศึกษาธกิาร. 2553. หนังสอืเรยีนสาระการเรยีนรูพ้ื้นฐานวทิยาศาสตร ์กลุ่มสาระการเรยีนรู ้ วทิยาศาสตรช์ัน้มธัยมศึกษาปีท่ี 3. องค์การค้าของครุุสภา. สพุฒัน์ สธุาธรรม. อุปกรณ์ไฟฟา้.โรงพมิพ์  สทีองกิจพสิาร : กรุงเทพฯ. 2550 หน้า  47. อุษา สทุธนิาค. เสรมิทักษะกระบวนการวทิยาศาสตร ์ม.3. พมิพค์รัง้ท่ี 1 กรุงเทพฯ : สำานักพมิพแ์มค็ จำากัด. 2550.

42

เอกสารอ้างอิงจากเวบ็ไซต์

ขนาดสายไฟฟา้ตามขนาดของเมนสวติช.์ วธิกีารสบืค้นขอ้มูลสารสนเทศ [ออนไลน์]. เขา้ถึงได้จาก : http://www.mea.or.th/ apd/3/main31.htm ปีท่ีเผยแพร ่ม.ป.ป. (วนัท่ีสบืค้น 20 สงิหาคม 2555).

ชนิดของสายไฟฟา้และการเลือกใชง้าน . วธิกีารสบืค้นขอ้มูลสารสนเทศ [ออนไลน์]. เขา้ถึงได้จาก : http://www.bloggang.com (วนัท่ีสบืค้น 11 มถินุายน 2555).

ไฟฟา้เบื้องต้น. วธิกีารสบืค้นขอ้มูลสารสนเทศ [ออนไลน์]. เขา้ถึงได้จาก : http://www.chontech.ac.th/~electric/e-learn/unit2/unit2.htm

(วนัท่ีสบืค้น 19 พฤษภาคม 2555). อิเล็กทรอนิกสเ์บื้องต้น. วธิกีารสบืค้นขอ้มูลสารสนเทศ

[ออนไลน์]. เขา้ถึงได้จาก : http://www.sema.go.th/files/Content/Technic/k3/0002/RITTIYA/

43

part2/index.html (วนัท่ีสบืค้น 11 มถินุายน 2555).

ELECTRICITY - GRADE FIVE. วธิกีารสบืค้นขอ้มูลสารสนเทศ [ออนไลน์]. เขา้ถึงได้จาก : http://members.shaw.ca/len92/electricity.htm (วนัท่ีสบืค้น 20 สงิหาคม 2555).

44

ภาคผนวก